Promotion   Back

ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอิออน (ไทยแลนด์) จำกัด

      เนื่องด้วยในปัจจุบันได้มีความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีแนวโน้มที่อาจก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลตลอดจนสิทธิความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปแสวงหาผลประโยชน์ในทางการค้า นำไปใช้ในการกระทำความผิดต่างๆ หรือนำไปเปิดเผยโดยมิชอบ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่นอกจากจะเป็นการล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ บริษัท อิออน (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ให้ความสำคัญถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ ดังนั้น บริษัทฯจึงได้จัดทำนโยบายและแนวทางปฎิบัติฉบับนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายวิธีการ เก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวกับการให้บริการใดๆของบริษัทฯ โปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศนี้

         นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ มีผลใช้บังคับกับการให้บริการของบริษัทฯเท่านั้น ไม่มีผลใช้บังคับ กับ แอปพลิเคชั่นและบริการหรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่อาจมีการเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นของบุคคลภายนอก ที่บริษัทฯไม่มีอำนาจควบคุม และเป็นส่วนที่ผู้ใช้บริการต้องทำความตกลง และศึกษาเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้แอปพลิเคชั่นบริการ หรือเว็บไซต์ดังกล่าวแยกต่างหาก

         หากผู้ใช้บริการไม่ตกลงตามเงื่อนไขของนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือฉบับแก้ไขอื่นๆ บริษัทฯ สงวนสิทธิที่จะห้าม หรือไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการดังกล่าวใช้บริการของบริษัทฯ เนื่องจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้ มีความจำเป็นโดยตรงต่อการปฏิบัติตามหน้าที่ให้บริการโดยบริษัทฯ แก่ผู้ใช้บริการ หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา  ทั้งนี้ การที่ผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการของบริษัทฯอยู่ ผู้ใช้บริการดังกล่าว จะถือว่ายอมรับนโยบายฉบับนี้เสมอ

1. ขอบเขตการใช้

      ประกาศฉบับนี้ มีผลใช้บังคับทุกกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทฯที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้นว่า ช่องทางการจัดเก็บข้อมูล ประเภทและรูปแบบของข้อมูลที่จัดเก็บ วัตถุประสงค์ของบริษัทฯในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ การแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลอื่น ตลอดจนวิธีการที่บริษัทฯดำเนินการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 

2. คำนิยาม  

        “บริษัท”   หมายความว่า  บริษัท อิออน(ไทยแลนด์) จำกัด

        “ข้อมูลส่วนบุคคล” (Personal Data) หมายความว่า    บุคคลซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลทำให้สามารถระบุตัวตนนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม  เป็นต้นว่า ชื่อ สกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เพศ ประวัติการศึกษา หมายเลขโทรศัพท์ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหมาย รหัส เลขบัญชีธนาคาร เลขประจำตัวผู้เสียภาษี อีเมลล์  ข้อมูลทางชีวมิติ  และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ข้อมูลนิติบุคคล หรือ ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

      “ข้อมูลอ่อนไหว” (Sensitive Data)  หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนและมีความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฎิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ซึ่งบริษัทฯจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวต่อเมื่อบริษัทฯได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทฯมีความจำเป็นตามกฏหมาย

      “เจ้าของข้อมูล ” หมายความว่า   บุคคลธรรมดาที่มีการติดต่อ หรือ ทำธุรกรรมต่างๆกับบริษัทฯ เช่น คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า เป็นต้น โดยไม่รวมถึงพนักงานของบริษัทฯซึ่งมีประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแยกต่างหากจากประกาศฉบับนี้

      “บุคคล”     หมายความว่า บุคคลธรรมดา

      “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”   หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

      “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”  หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

      “เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”  หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคล ผู้ที่ควมคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล แต่งตั้งขึ้นเพื่อให้คำแนะนำและตรวจสอบการดำเนินงานเพื่อให้การเก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามข้อกำหนดของทางการ รวมทั้งเป็นผู้ประสานงานกับคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ทางหน่วยงานราชการจัดตั้งขี้น

      “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”  หมายความว่า   การดำเนินการใดๆของบริษัทฯต่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง การเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและการลบข้อมูลส่วนบุคคล

 

3. ลักษณะข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯประมวลผลในการให้บริการของบริษัท

         ในการให้บริการ บริษัทจะเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล จากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการผ่านระบบการให้บริการ ดังต่อไปนี้

3.1 ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนโดยตรง อาทิ ชื่อ อายุ สัญชาติ วันเกิด เลขบัตรประชาชน

3.2 ข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร อีเมล

3.3 ข้อมูลการชำระเงิน อาทิ รายละเอียดการชำระเงิน บัตรเครดิต และบัญชีธนาคาร

3.4 ข้อมูลการใช้บริการ อาทิ ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน ประวัติการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ผู้ใช้บริการ ดำเนินการ รวมถึง ความสนใจของต่างๆของผู้ใช้บริการ

3.5 ข้อมูลทางเทคนิคในการระบุตัวตน อาทิ หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลการใช้งาน การตั้งค่าและการเชื่อมต่อบราวเซอร์ของอุปกรณ์ที่   ผู้ใช้บริการ ใช้ในการใช้ บริการของบริษัท

4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

        4.1 เพื่อการให้บริการที่กำหนดและระบุไว้สำหรับแต่ละเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท อันรวมถึง เพื่อการยืนยันตัว ตนและติดตามในการทำธุรกรรมต่างๆของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงิน ค่าบริการ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

        4.2 เพื่อการวิเคราะห์ความสนใจ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สามารถเสนอสิทธิประโยชน์หรือบริการตามความสนใจของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้มากขึ้น หรือ เพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

        4.3 เพื่อวัตถุประสงค์ในการ ให้บริการสนับสนุนอื่นๆ เช่น การติดต่อสอบถามข้อมูลติชมแสดงความคิดเห็นหลังการบริการ หรือ การส่งคำร้องต่างๆ

        4.4 เพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมาย หรือ ข้อสัญญา และระเบียบบังคับใช้ของรัฐ เช่น การจัดทำเอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือการดำเนินการอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด

 

5. ผู้ที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

         บริษัทฯ เป็น “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทุกคน จึงมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อการประมวลผล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ ขอบเขต และวิธีการใช้ตามที่กฏหมายกำหนด

         นอกจากนี้ บริษัทฯอาจส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดำเนินการ ในฐานะ “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” โดยดำเนินการในนามของบริษัทฯ

 

6. ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม

           ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บริษัทฯมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามแต่กรณี เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุในใบสมัครการให้บริการต่างๆ สัญญา เอกสารประกอบต่างๆ หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ได้รับอันเนื่องมาจากการดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ สิทธิ หรือ การปฏิบัติตามกฏหมาย

           นอกจากนี้ บริษัทฯยังประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการใช้งานผ่านเทคโนโลยี รวมถึง กล้องวงจรปิดระบบการเข้าออกอาคารและข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ตามกฏหมายว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์

            โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกือบทั้งหมดจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง อย่างไรก็ดี บริษัทฯอาจเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งอื่น ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นจะได้รับการตรวจสอบและรับรองแล้วว่าสามารถนำมาใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ของประกาศนี้

            บริษัทฯอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ในรูปแบบที่เป็นเอกสาร และ/หรือ รูปภาพ และ/หรือ รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

7. เหตุที่บริษัทฯต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

         บริษัทฯใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการหรือใช้บริการ โดยบริษัทฯจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยฐานในการให้ประมวลผลข้อมูลซึ่งอาจจะอาศัยฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐานประกอบกันได้ ดังต่อไปนี้

         7.1  ประมวลผลข้อมูลตามฐานสัญญา (Contract)

                เพื่อให้บริษัทฯสามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ตามวัตถุประสงค์ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัทฯ หรือ เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ  เช่น

                (1) การดำเนินการอื่นใดเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามสัญญา หรือ การจ่ายค่าตอบแทน

                (2) การสมัครเป็นสมาชิก เพื่อการให้บริการที่ กำหนดและระบุไว้สำหรับแต่ละเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท อันรวมถึง เพื่อการยืนยันตัวตนและติดตามในการทำธุรกรรมต่างๆของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินค่าบริการ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการ เป็นต้น

               

         7.2  ประมวลผลข้อมูลตามฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฏหมาย( Legitimate Interests)

                บริษัทฯอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในการประมวลผลเพื่อมาตราฐานการบริหารกิจการภายในของบริษัทฯ การตรวจสอบการดำเนินการ และการจัดทำรายงานของบริษัทฯ  หรือ เพื่อการปกป้องและจัดการความเสี่ยงของบริษัทฯ  หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฏหมายของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัทฯ เช่น

                (1) การบันทึกและเก็บภาพกล้องวงจรปิด (CCTV)

                (2) การติดต่อ บันทึกภาพ บันทึกภาพเคลื่อนไหว บันทึกเสียง  การจัดทำสื่อโฆษณา หรือ การออกบูธ การประชาสัมพันธ์ หรือการจัดทำโครงการต่างๆ

                (3) การรับเรื่องร้องเรียน การบริหารจัดการความเสี่ยง

         7.3  ประมวลผลตามฐานการปฏิบัติตามกฏหมาย (Legal Obligation)

                บริษัทฯอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปประมวลผลเพื่อการดำเนินการต่างๆที่กฏหมายให้อำนาจ เช่น การประมวลผลข้อมูลตามคำสั่งศาล  ตามคำสั่งของหน่วยงานราชการต่างๆ หรือ ตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฏหมายอื่นที่บริษัทฯต้องอยู่ภายใต้บังคับให้ส่งข้อมูลทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

         7.4  ประมวลผลตามฐานความยินยอม (Consent)

                บริษัทฯจะขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เท่านั้น หรือบริษัทฯสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวข้องและไม่ขัดกับวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯได้แจ้งไว้ ถ้าบริษัทฯจะต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่บริษัทฯเคยแจ้งไว้ บริษัทฯจะดำเนินการขอความยินยอมใหม่เพื่อใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น

                เจ้าของข้อมูลมีสิทธิจะขอถอนความยินยอมให้ประมวลผลข้อมูลที่เคยให้ไว้กับบริษัทฯได้ โดยแจ้งตามข้อ12 .อย่างไรก็ตาม การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ บริษัทฯขอให้ท่านศึกษาหรือสอบถามถึงผลกระทบต่อสิทธิต่างๆของท่าน ก่อนเพิกถอนความยินยอม

8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

              บริษัทฯอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลตามสัญญา ตามประโยชน์โดยชอบด้วยกฏหมาย หรือ ตามความยินยอม โดยบริษัทฯอาจส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้

             (1) ตัวแทน ผู้รับจ้าง หรือผู้ให้บริการ ที่ให้บริการกับบริษัทฯและเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ในด้านเกี่ยวกับเทคโนโลยีและการสื่อสาร การขนส่ง และการโฆษณา การธนาคาร รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการประเมินการบริการของบริษัท เช่น Google Analytics ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

             (2) หน่วยงานของรัฐบาล หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค  สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรมสรรพากร  กระทรวงพาณิชย์  กรมการค้าภายใน  กระทรวงสาธารณะสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กรมบังคับคดี

             (3) เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฏหมาย การปฏิบัติตาม หรือ การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฏกมาย หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฏหมาย

             (4) บริษัทฯอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือ เป็นไปตามข้อกำหนดตามกฏหมาย โดยประเทศปลายทาง หรือ องค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับการวินิจฉัยจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีมาตราฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ

             (5) บริษัทอาจเปิดเผยด้วยการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้บริการ ได้แก่ ตั้งเซิฟเวอร์ด้วยตนเอง

 

Cookies ที่บริษัทใช้ในการให้บริการ

             Cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการ ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การ ใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือพฤติกรรมการใช้บริการของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ เพื่อรับประกันประสิทธิภาพใน การให้บริการของบริษัทแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้หลายประเภทเพื่อจุดประสงค์ ต่างกันไป ตังที่ระบุต่อไปนี้

             1 Functionality Cookies: ใช้ในการจดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือก หรือตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา ฟ้อนต์ และรูปแบบแพลตฟอร์ม เพื่อการนำเสนอข้อมูลที่ตรงความต้องการ เฉพาะบุคคล ให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้น ตามการตั้งค่าต่างที่เลือกไว้

             2 Advertising Cookies: ใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชมและรวมถึง ลักษณะการใช้ บริการของผู้ใช้บริการ เพื่อนำเสนอสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของ ผู้ใช้บริการ และใช้เพื่อการประเมินประสิทธิผลของการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆของระบบ

             3 Strictly Necessary Cookies เป็นคุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานเพื่อ การให้บริการของบริษัท เพื่อมีความจำเป็นเพื่อให้การใช้บริการโดยผู้ใช้งานสามารถทำได้ อย่างทั่วถึงและปลอดภัย

             แม้ว่าการใช้คุกกี้จะมีประโยชน์ในการเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ และการทำงานให้บริการ ของบริษัท แต่หากผู้ใช้บริการต้องการ ผู้ใช้บริการสามารถลบการตั้งค่าคุกกี้บน Browser ของตน เองได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการต้องรับทราบว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประ สิทธิภาพในการทำงานให้บริการของบริษัทได้ในบางส่วน ตามจุดประสงค์การทำงานของคุกกี้ที่ระบุไว้

9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

                เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทฯ โดยสามารถขอใช้สิทธิต่างๆได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฏหมาย และประกาศนี้หรือที่จะมีการประกาศแก้ไขเพิ่มเติมต่อไป โดยมีสิทธิดำเนินการดังต่อไปนี้

         9.1  สิทธิในการได้รับการแจ้งให้ทราบ ( Right to be informed)

                 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิได้รับการแจ้งเกี่ยวกับการประมวลผล วิธีการเก็บรวบรวม บุคคลที่จะได้รับข้อมูล เหตุผลและระยะเวลาที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

         9.2  สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of access )

                 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัทฯทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงขอให้บริษัทฯเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯได้

         9.3  สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object )

                 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้

         9.4  สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure)

                 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการขอให้บริษัทฯลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้

         9.5  สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing )

                 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้

         9.6  สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification)

                 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้ บริษัทฯแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

         9.7  สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)

                 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทฯได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัทฯ

         9.8  สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability)

                เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทฯไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือ ตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้

                ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ เพื่อขอใช้สิทธิข้างต้นได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ บริษัทฯได้กำหนดไว้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และบริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาการขอใช้สิทธิ ให้ผู้ใช้บริการทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจศึกษาเพิ่มเติมข้อมูลสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ เว็บไซต์กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

 

10. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

                บริษัทจะเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่ยังเป็นผู้ใช้บริการหรือ คู่สัญญาของบริษัทฯอยู่ และบริษัทฯสงวนสิทธิเก็บข้อมูลไว้อีกเป็นระยะเวลา  10 ปี หลังจาก เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยกเลิกการใช้บริการหรือยกเลิกสัญญา เพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิต่างๆของบริษัทฯ เว้นแต่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้บริษัทฯ มีหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาอื่น ตามที่กฏหมายกำหนด

 

11. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

                บริษัทฯอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และให้สอดคล้องกับการให้บริการต่างๆของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ให้เจ้าของข้อมูลทราบ โดยนโยบายนั้นจะถือว่ามีผลบังคับใช้ เมื่อบริษัทได้ประกาศ

 

12. คำรับประกันการดำเนินมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่เหมาะสม

                บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกัน การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดย มิชอบ นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับ และความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสม ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

 13. ช่องทางการติดต่อ

                รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล

                ชื่อ: บริษัท อิออน (ไทยแลนด์) จำกัด และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(นายวีระวัฒน์ แก้วสุวรรณ)

                สถานที่ติดต่อ: อาคารอิออน หลักสี่ชั้น 2   เลขที่78  ถนน แจ้งวัฒนะ แขวง อนุสาวรีย์ เขตบางเขน  กรุงเทพมหานคร 10220

                ช่องทางการติดต่อ: 02 552-3209

                อีเมล: privacy@aeonthailand.biz

                                                                                ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565